วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

กลุ่มดาวลูกไก่







                กลุ่มดาวลูกไก่ หรือ กลุ่มดาวไพลยาดีส หรือ ดาวพี่น้องทั้งเจ็ด   นับเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด และอาจเป็นกลุ่มดาวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า จึงเป็นกลุ่มดาวที่ใช้ทดสอบสายตาของคนได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าคนทั่วไปจะเห็นเพียง ดวง แต่ถ้าผู้ชำนาญดูบ่อย ๆ นับดูจะได้ ดวง แต่ทว่าดาวกลุ่มนี้ตามความเป็นจริงไม่ได้มีแต่เพียง ดวง แต่มีหลายร้อยดวงเป็น กระจุกดาว” ถ้ามีกล้อง ตาหรือกล้องโทรทรรศน์ส่องดูดวงกลุ่มนี้ จะเห็นเป็น กระจุกดาวที่สวยงามที่สุดในท้องฟ้ากลุ่มหนึ่ง


    


        กระจุกดาวนี้ประกอบด้วยดาวฤกษ์สีน้ำเงินที่มีอายุราว 100 ล้านปี แต่เดิมเคยเชื่อว่าเศษฝุ่นที่ทำให้เกิดการสะท้อนแสงจาง ๆ เรืองรองรอบดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดน่าจะเป็นเศษที่หลงเหลือจากการก่อตัวของกระจุกดาว (จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เนบิวลามายา ตามชื่อดาวมายา) แต่ปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันเป็นเพียงฝุ่นเมฆในสสารระหว่างดาวที่ดาวฤกษ์กำลังเคลื่อนผ่านเท่านั้น นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่ากระจุกดาวนี้จะมีอายุต่อไปอีกอย่างน้อย 250 ล้านปี หลังจากนั้นก็จะกระจัดกระจายออกไปเนื่องจากปฏิกิริยาแรงโน้มถ่วงที่เกิดจากดาราจักรเพื่อนบ้านใกล้เคียง


เรื่องเล่าในตำนานและวัฒนธรรมพื้นบ้าน


                ดาวลูกไก่ที่ประกอบไปด้วยดาวฤกษ์ทั้ง ดวงนั้น ตามตำนานกรีกเล่าว่าดาวเหล่านี้เป็นตัวแทนของหญิงสาวเจ็ดพี่น้องแห่งไพลยาดีส ในขณะที่ตำนานชาวไวกิงบอกว่าดาวเหล่านั้นคือแม่ไก่ทั้งเจ็ดตัวของเฟรย์ยา ซึ่งคล้ายคลึงกับตำนานของไทย

                 ในยุคสำริดของยุโรป ชาวยุโรปบางส่วน เช่นชาวเคลต์หรือวัฒนธรรมอื่นก่อนหน้านั้น เชื่อว่ากลุ่มดาวนี้เกี่ยวข้องกับความอาลัยและงานศพ ในอดีตจะมีงานเทศกาลช่วงวันระหว่างวันศารทวิษุวัตจนถึงวันเหมายัน (ดู วันฮัลโลวีน หรือวันแห่งจิตวิญญาณ) เป็นเทศกาลเพื่อระลึกถึงผู้วายชนม์ กระจุกดาวนี้จะเริ่มปรากฏบนท้องฟ้าด้านตะวันออกหลังจากตะวันลับขอบฟ้า เหตุนี้กลุ่มดาวลูกไก่จึงมักให้ความรู้สึกถึงน้ำตาและความเศร้าโศก


อ้างถึง: http://teacheryada2.blogspot.com/2013/03/blog-post_8758.html เรื่องกลุ่มดาวลูกไก่

กลุ่มดาวม้าปีก







เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวทั้ง 48 ที่ปโตเลมี นักดาราศาสตร์ที่เกิดในยุคศตวรรษที่สองได้กำหนดไว้และยังคงอยู่ต่อมาในกลุ่มดาวสมัยใหม่ทั้ง 88 กลุ่มอีกด้วย
ลักษณะเด่นชัดของกลุ่มดาวม้าปีกนี้คือมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมและมีดาวดวงหนึ่งในกลุ่มใช้ร่วมกันกับกลุ่มดาวเจ้าหญิงแอนโดรมีด้าด้วย นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำไมเซย่ากับชุนมันจะอยู่ด้วยกันบ่อยมากในเรื่อง อย่างตอนตอนที่สู้กับแบล็คเซนต์ชุนก็พยายามดึงเซย่าที่โดนหมัดดาวตกดำขึ้นจากเหว ตอนศึก 12 ปราสาทก็เหลือเซย่ากับชุนตอนมาถึงปราสาทสุดท้าย ตอนฮาเดสเซย่ากับชุนก็เดินทางฝ่าขุมนรกด้วยกัน และตอนเน็กซ์ไดเมนชั่นชุนก็ตามซาโอริไปช่วยเซย่าจนไปเจอเซนต์เพกาซัสในอดีต
ดาวที่สว่างที่สุดในบรรดาดาวทั้ง 13 ดวงของกลุ่มดาวนี้เป็นดาวสีส้มขนาดใหญ่ชื่อ เอนิฟ (Enif) ซึ่งเค้าว่าเป็นตำแหน่งของจมูกม้า และตรงใกล้ ๆ ตำแหน่งนี้ของกลุ่มดาวก็มักมีฝนดาวตกเกิดขึ้นทุกปีช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งมันพ้องกับท่าไม้ตาย"เพกาซัส หมัดดาวตก" ของเซย่าพอดี
นอกจากจะมีกลุ่มดาวใกล้กับกลุ่มดาวเจ้าหญิงแอนโดรมีด้าแล้ว รอบ ๆ ก็ยังมีกลุ่มดาวอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง อย่างกลุ่มดาจิ้งจก(ลีซาร์ด มิสตี้ สู้กับเซย่า) กลุ่มดาวหงส์ (ซิกนัส เฮียวกะ หนึงในกลุ่มเซย่าและถ้าแกแล็กเซี่ยนวอร์ไม่ล่มไปก่อนทั้งคู้ต้องเจอกัน) กลุ่มดาวปลาคู่ (พิสเซส อโพรดิเท เซย่าต้องฝ่าดงกุหลาบหลาบพิษของหล่อน)
ตำนานของเพกซัส
เพกาซัสคือม้ามีปีกที่มีหน้าที่รับใช้เทพเจ้า มักถูกบรรยายว่ามีลักษณะขาวปลอด ตำนานกล่าวว่าเพกาซัสนั้นเกิดจากการที่เลือดของเมดูซ่าหยดลงทะเลขณะเพอร์เซอุสหิ้วหัวของนางข้ามทะเลไปช้วยเจ้าหญิงแอนโรมีด้า เมื่อเลือดโดนน้ำทะเลก็กลายเป็นเพกาซัสขึ้นมา หลายคนถือว่าเพกาซัสเป็นบุตรของเทพแห่งมหาสมุทรโพเซดอนด้วย (เรื่องนี้เดี๋ยวเอาไว้เลารายละเอียดในกลุ่มดาวเพอร์เซอุส)
เพกาซัสนั้นปรากฎในเรื่องราวของตำนานกรีกอยู่บ่อยครั้งและเป็นผู้รับใช้ที่ดีของซูส ซูสจึงยกให้เพกาซัสกลายเป็นกลุ่มดาวอยู่บนท้องฟ้ามาจนถึงทุกวันนี้ 





อ้างถึง: http://teacheryada2.blogspot.com/2013/03/blog-post_8758.html เรื่องกลุ่มดาวม้าปีก
            http://en.wikipedia.org/wiki/Pegasus_(constellation)
            http://en.wikipedia.org/wiki/Ptolemy#Astronomy
            http://en.wikipedia.org/wiki/Pegasus#Olympus
            http://www.myth-and-fantasy.com/pegasus/plore.html
            http://www.fanpop.com/…/ima…/2887706/title/pegasus-wallpaper

 กลุ่มดาวค้างคาว





        กลุ่มดาวแคสสิโอเปีย เป็นกลุ่มดาวในซีกฟ้าเหนือ เป็นกลุ่มดาวที่สังเกตและจดจำได้ง่าย เพราะประกอบด้วยดาวฤกษ์สว่าง ดวง เรียงตัวกันเป็นรูปตัวเอ็ม (M) คนไทยจะเห็นเป็นรูปค้างคาว จึงเรียกชื่อกลุ่มดาวนี้ว่า "กลุ่มดาวค้างคาว" ส่วนชาวโบราณจะเห็นเป็นรูปเก้าอี้ ที่ราชินีแคสสิโอเปียทรงประทับอยู่ กลุ่มดาวแคสสิโอเปีย จะเคลื่อนที่รอบดาวเหนือ (Polaris) โดยอยู่ห่างจากดาวเหนือ ประมาณ 30 องศา และอยู่ทิศตรงข้ามกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa Major) เสมอ กลุ่มดาวแคสสิโอเปีย จะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของกลางเดือนพฤศจิกายน


                   





อ้างถึง: http://teacheryada2.blogspot.com/2013/03/blog-post_8758.html เรื่องกลุ่มดาวค้างคาว

กลุ่มดาวหมีเล็ก



             กลุ่มดาวในดวงใจของนักเดินทาง ตำนานแห่งการเดินทางจากอดีตสู่ปัจจุบัน ที่นอกเหนือจากเข็มทิศที่ใช้ในการนำทางแล้ว ยังได้อาศัยดวงดาวเพื่อนำพาไปสู่จุดหมายปลายทาง Ursa Minor กลุ่มดาวหมีเล็ก ซึ่งดาวที่เป็นส่วนหางของดาวหมีเล็กก็คือ "ดาวเหนือ" นั่นเอง ซึ่งเป็นดาวที่มีประโยชน์มากสำหรับนักเดินเรือ ดาวที่ท้องของหมีเล็กทั้ง ดวง จะมีแสงสว่างขนาด 2,3,4 และ แมกนิจูดตามลำดับ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการช่วยให้เราสามารถวัดขนาดความสว่าง ของดาวข้างเคียงได้ เราสามารถมองเห็นกลุ่มดาวหมีเล็กได้ในช่วงเวลาประมาณ 21.00 









อ้างถึง: http://teacheryada2.blogspot.com/2013/03/blog-post_8758.html เรื่องกลุ่มดาวหมีเล็ก

กลุ่มดาวหมีใหญ่



   ดาวที่มนุษย์รู้จักดีที่สุด และใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดก็คือ กลุ่มดาวหมีใหญ่หรือกลุ่มดาวจระเข้ เนื่องจากเป็นกลุ่มดาวสำคัญ ช่วยชี้หาดาวเหนือที่สว่างโดเด่นได้โดยไล่จากขาหน้าขวา ไปทางขาหน้าซ้าย เลยออกไปอีกประมาณ ช่วง กลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นกลุ่มดาวที่ี่มองเห็นได้ตลอดทั้งปีเช่นเดียวกับดาวเหนือ แต่ในทางกลับกันเนื่องจากเป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในซีกฟ้าเหนือ ผู้ที่อาศัยอยู่ทางซีกโลกใต้มากๆ จะเห็นได้ลำบาก เพราะตำแหน่งดาวบนทรงกลมท้องฟ้า จะอยู่ใต้พื้นโลก

        ดาวกลุ่มนี้มี ดวง มีลักษณะคล้ายกระบวยตักน้ำ ดวงเป็นตัวกระบวย อีก ดวง เป็นด้าน 
ชาวจีนและชาวยุโรป เขาเห็นเป็นรูปกระบวย จึงเรียกกลุ่มดาวกลุ่มนี้ว่า กระบวยใหญ่” (Big Dipper) 
ชาวกรีก ซึ่งเป็นดินแดนแห่งเทพนิยายอันเกี่ยวกับ ดวงดาวต่าง ๆ เห็นเป็น หมีใหญ่” (Ursa Major) 
คนไทย เห็นเป็น จระเข้” 
ทั้งกรีกและไทย เห็นเหมือนกันอยู่ อย่างคือ เห็นดาว ดวง ทางด้ามกระบวยเป็นหางหมี และ หางจระเข้เหมือนกัน






อ้างถึง: http://teacheryada2.blogspot.com/2013/03/blog-post_8758.html เรื่องกลุ่มดาวหมีใหญ่

กลุ่มดาวไถ



        กลุ่มดาวดาวไถ จะมองเห็นชัดในฤดูหนาวเป็นดวงดาวสามดวงเรียงกัน ถือว่าเป็นกลุ่มดาวที่ดูได้ง่ายในฤดูหนาวจะเห็นได้ชัดกลุ่มดาวไถมีประโยชน์ในการค้นหาดาวอื่น ๆ ซึ่งดาวไถจะอยู่ห่างจากโลกประมาณ 800 - 1400 ปีแสง และเป็นแหล่งที่มีดาวดวงใหม่เกิดขึ้นมากที่สุดที่ตรงใจกลางดาวไถมีดวงดาวอยู่ถึง 110 ดวง คนไทยมองเห็นเป็นลักษณะเหมือนคันไถจึงเรียกว่าดาวไถ ซึ่งกลุ่มดาวไถนี้มีกลุ่มดาวนายพราน (กลุ่มดาวเต่า) ล้อมรอบ โดยที่ดาวไถเป็นเข็มขัดของนายพรานนั่นเอง





อ้างถึง: http://teacheryada2.blogspot.com/2013/03/blog-post_8758.html เรื่องกลุ่มดาวไถ

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

กลุ่มดาวต่างๆในจักรวาล

กลุ่มดาวนายพราน


             กลุ่มดาวนายพรานเป็นกลุ่มดาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังสะท้านเอกภพอีกกลุ่มดาวหนึ่งในฤดูหนาวเพราะสามารถมองเห็นได้ยาวนาน และสังเกตหาง่าย สำหรับคนไทยเรียกกลุ่มดาวนายพรานว่า ดาวเต่า ข้างในดาวเต่ามี ดาวไถ อีกที เนื่องจากกลุ่มดาวนายพราน หรือ Orion ประกอบด้วยดาวฤกษ์มีจำนวนทั้งหมด 8 ดวง โดยมี ดวงสำคัญ 4 ดวง ตั้งเรียงกันเป็นขาเต่าหน้าหลัง
                    กลุ่มดาวนายพรานมีดาว 2 ดวงที่เป็นดาวฤกษ์สว่างมาก ก็คือ ดาวบีเทลจุส (Betelgeuse) อยู่ตรงส่วนของไหล่ขวานายพรานเป็นดาวยักษ์แดง สีออกแดงๆส้มๆ และอีกดวงก็คือ ดาวไรเจล (Rigel) ตรงเข่าซ้ายนายพราน(หรือเท้าซ้าย) ดาบนายพรานคือดวงดาวที่เรียงตัวในแนวดิ่ง ใต้ดาวสามดวงในแนวเกือบจะเป็นแนวนอนก็คือ ''เข็มขัดนายพราน" นั่นเอง กลุ่มดาวนายพรานจะเริ่มโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่เวลาประมาณหนึ่งทุ่ม ทางทิศตะวันออกโดยจะขึ้นแบบตะแคงข้าง ส่วนเวลาตกก็ประมาณตีห้า ทางทิศตะวันตกค่อนไปทางใต้เล็กน้อย 









อ้างถึง:http://teacheryada2.blogspot.com/2013/03/blog-post_8758.html เรื่องกลุ่มดาวนายพราน